พลิกแพลง ศัพท์สแลงญี่ปุ่น
เรียนภาษาญี่ปุ่น แต่ไม่รู้จัก...คำสแลงญี่ปุ่น ก็เหมือนไปญี่ปุ่น แต่ไม่ได้เห็น...ภูเขาไฟฟูจิ ! อยากเรียนภาษาญี่ปุ่น แต่ก็อยากรู้พวกคำสแลงด้วย...ไม่ใช่เรื่องยาก เลือกเอาเลย...ว่าจะศึกษาจากสถานการณ์ไหนก่อนดี
เรียนภาษาญี่ปุ่น แต่ไม่รู้จัก...คำสแลงญี่ปุ่น ก็เหมือนไปญี่ปุ่น แต่ไม่ได้เห็น...ภูเขาไฟฟูจิ ! อยากเรียนภาษาญี่ปุ่น แต่ก็อยากรู้พวกคำสแลงด้วย...ไม่ใช่เรื่องยาก เลือกเอาเลย...ว่าจะศึกษาจากสถานการณ์ไหนก่อนดี
คู่มือฉบับกระเป๋าสำหรับผู้ที่ต้องการไปเที่ยวหรือไปใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น สามารถสื่อสารด้วยภาษาญี่ปุ่นแบบง่าย ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นสำนวนและคำศัพท์ที่ใช้หรือพบบ่อยในการท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ หรือในชีวิตประจำวัน
คู่มือฉบับกระเป๋าสำหรับผู้ที่ต้องการไปเที่ยวหรือไปใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น สามารถสื่อสารด้วยภาษาญี่ปุ่นแบบง่าย ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นสำนวนและคำศัพท์ที่ใช้หรือพบบ่อยในการท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ
"ในบริเวณแถบแถวอุษาคเนย์รอบพื้นที่ประเทศไทย สาธารณประชาธิปไตยประชาชนลาว ถือเป็นประเทศที่ใกล้ชิดประเทศไทยที่สุด มีรากเหง้าทางภาษาและวัฒนธรรมใกล้เคียงกับวัฒนธรรมไทยมากที่สุด เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ทางธรรมชาติที่ใครได้ไปเยี่ยมเยือนเมื่อใดย่อมประทับใจเมื่อนั้น ในขณะเดียวกัน ลาวเมื่อครั้งอดีตนั้นก็เคยบอบช้ำจากสงครามอินโดจีน ในฐานะที่ลาวเป็นเสมือนสงครามตัวแทนในฝั่งสังคมนิยมในยุคสงครามเย็น สหรัฐอเมริกาซึ่งครอบงำลาวต่อจากฝรั่งเศษจึงรุกรานลาวเพื่อการแบ่งแยกและปกครอง ทำให้คนลาวต้องจับอาวุธขึ้นสู้ ก่อนจะปลดแอกเป็นเอกราชจนทุกวันนี้ ความสวยงามของเมืองลาวจึงเต็มไปด้วยริ้วรอยบาดแผลจากผลของสงคราม หนัง
แนะนำ "ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ" 20 แห่ง พร้อมสูตรอาหารและวิธีทำ รวม.............เมนู บวกเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพผ่านอาหารการกินที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ รวมถึงข้อมูลจำเพาะ เช่น สถานที่ตั้ง เบอร์โทร.ติดต่อ แผนที่ นอกจากนี้ ท้ายเล่มยังได้รวบรวมรา
อาทิ จริงหรือ...คนแต่ง “ซินเดอเรลล่า” ลอกพล็อตเรื่องมาจาก “ปลาบู่ทอง”? พระเจ้า! ถ้าโปรตุเกสไม่เอามะละกอกับพริกขี้หนูมาปลูก แล้วสาวๆ จะมี “ส้มตำ” กินมั้ย? ทำไมคนไทยฟังเพลง “พม่าประเทศ” แล้วต้องยืนตรงเคารพธงชาติ? เจ้าสาวเวียดนามร่ำไห้ทำไมในงานแต่ง? ๗ ประเทศอาเซียนแต่งชุดรามเกียรติ์ต่างกัน แต่ทำไมเล่นเรื่องเดียวกัน? เป็นต้น
หนังสือเล่มนี้เป็นบันทึกการเดินทางฉบับลุยเดี่ยวเที่ยวพม่าของหญิงสาวจากเมืองที่ราบสูง โดยหวังไปเยี่ยมเยือนถิ่น “คนไต” หรือ “ไทยใหญ่” ซึ่งเป็นเสมือนพี่-น้องกับคนไทย และพม่ายังมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ที่น่าสนใจอยู่มาก อีกทั้งการเดินทางครั้งนี้ของเธอนั้นเป็น ‘ครั้งแรก’ ของหลายๆ สิ่ง...เป็นการนั่งเครื่องบินครั้งแรก เป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรก แถมยังแบกเป้ฉายเดี่ยวด้วยงบจำกัดแบบสุดๆ โดยหัวเมืองหลักที่เธอไปเยือนนั้นอยู่ในเขตรัฐฉานตอนเหนือและตอนใต้ แต่มีจุดมุ่งหมายสำคัญอยู่ที่เมืองสีป้อ...ที่ซึ่ง “ฉาน” ยังคงฉายแสงอยู่ในหัวใจของเธอมาหลายปี นับตั้งแต่ได้อ่านหนังสือ* เรื่องหนึ่งที่เขียนโดย “
"เรื่องเล่าผจญภัยหลากรส จากแรงปั่นสองขากับสองล้อคู่ใจ ตื่นเต้น ซาบวึ้ง สลดใจ ให้ข้อคิด............. ตลอดระยะเวลา 30 วัน 3,000 กิโลเมตร บนถนนที่ไม่คุ้นเคย...เลาะเลียบหลังคาโลก ผู้คนที่ไม่คุ้นหน้า และสภาพอากาศที่ไม่คุ้นชินอุปสรรคตามรายทางย่อมมีให้พบเจอบางครั้งแทบจะเอาชีวิตไม่รอด! แต่สิ่งเหล่านี้...ล้วนเป็นกำไรที่หาไม่ได้จากแพ็กเกจทัวร์ไหนๆ"
ทั้งสองสหายไม่ได้เที่ยวแบบแบ็คแพ็คเกอร์ทั่วไปที่นิยมกินลมชมวิว กระทั่งชมสาว แต่เป็นการเที่ยว ‘หาเรื่อง(ความรู้)’ เพราะพวกเขาสนใจค้นลึกลงไปในประวัติศาสตร์การเมืองของเวียดนาม วิถีผู้คน และศิลปวัฒนธรรมอย่างจริงจัง โดยเริ่มต้นทริปจากสุวรรณภูมิไปฮานอย ต่อรถไปเดี่ยนเบียนฝู ย้อนกลับฮานอยเพื่อนั่งรถต่อไปโดงห่า โดดขึ้นรถไปเว้ เที่ยงถึงดานัง ค่ำบินไปนครโฮจิมินห์ แล้วต่อรถข้ามไปกัมพูชาเพื่อบินกลับกรุงเทพฯ ทุกเมืองที่พวกเขาท่องไปนั้น ‘หมุดหมาย’ คือพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์สำคัญทุกแห่ง ส่วนบรรยากาศข้างทางเป็นเพียง ‘เครื่องเคียง’ เสมือนสำรับอาหารเวียดนามที่ต้องมีผักแนมเสมอ
"รู : The One Place to See Before You Die ชื่อก็บอกแล้วว่า...เป็นสถานที่ที่คุณควรจะไปเห็นด้วยตาสักครั้งก่อนตาย! เพราะอะไร? คุณหมอบรรจบและคุณหมอลลิตา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญธรรมชาติบำบัดทั้งสองท่านจึงสนใจเดินทางไปยังที่ซึ่งท่านนิยามว่า...ดินแดนของศิลปะโพสต์โมเดิร์น (Post Modern) ผสมกับบรรยากาศของวิญญาณและความขมังเวทอันน่าแตกตื่น! แล้วยังกล่าวอีกว่า บอกได้เลยว่าเหนื่อย...แต่คุ้ม! แถมยังมีเกร็ดสุขภาพเชิงกายและจิตมากมายที่อยากนำมาเล่าสู่กันฟัง เพราะอะไร ทั้งสองท่านจึงกล่าวไว้เช่นนั้น...น่าสนใจและน่าติดตามยิ่ง"