http://ilovelibrary.com/book_cover

เกาหลีเหนือเป็นรัฐคอมมิวนิสต์ เป็นประเทศที่ถูกแบ่งออกในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง โดยสหภาพโซเวียตและสหรัฐอเมริกาในการปลดอาวุธกองทัพญี่ปุ่นในคาบสมุทรเกาหลี แต่ทั้งสองประเทศไม่สามารถตกลงเรื่องการรวมเกาหลีกันได้ แต่ละฝ่ายจึงประกาศสนับสนุนดินแดนในส่วนยึดครองของตน โดยเกาหลีใต้ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาส่วนเกาหลีเหนือได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียต หลังจากเกาหลีเหนือได้แยกออกมาเป็นเอกราชแล้ว คิม อิลซุงก็ก้าวขึ้นเป็นผู้นำบริหารประเทศแบบเบ็ดเสร็จตลอดมา จนถึงแก่อสัญกรรมใน พ.ศ.

มนุษย์ในสมัยโบราณนั้นผู้ชายเป็นผู้นำ ถือเป็นกติกาของธรรมชาติ เนื่องจากผู้ชายมีความแข็งแรงมากกว่าผู้หญิง ทว่าผู้หญิงก็ไม่ได้เป็นผู้ถูกกระทำ ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา หรือต้องเป็นหลังบ้านเสมอไป ในเวลาต่อมาผู้หญิงได้เริ่มมีอิทธิพลเหนือบุรุษเพศ เป็น ผู้นำทางการบริหารและปกครองบ้านเมืองได้อย่างเก่งกาจ ไม่แพ้ผู้ชาย

ณ สนามแข่งขันโมนาโค ในทวีปยุโรป พ.ศ.

จากแผ่นดินจักรพรรดิ สู่ผู้นำโลกใหม่ อารยธรรมจีนมีอิทธิพลอย่างสูงต่อชนชาติอื่นๆ ในทวีปเอเชีย อีกทั้งมรดกต่างๆ ที่ตกทอดสู่สายตาชาวโลก เช่น การเมือง การปกครอง สถาปัตยกรรม ดนตรี ศิลปะ ตลอดจนการแพทย์แผนโบราณ ทั้งหมดถูกถ่ายทอดออกมาในหลายรูปแบบ ทั้งการอพยพ การค้า และการยึดครอง หนังสือ จากแผ่นดินจักรพรรดิ สู่ผู้นำโลกใหม่ มหาอำนาจจีน เล่มนี้ ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับช่วงเวลาผลัดแผ่นดินในสมัยต่างๆ ตั้งแต่จีนโบราณยุคราชวงศ์ จนมาถึงจีนยุคใหม่ การปฏิวัติยึดอำนาจของชนชั้นผู้นำ นับตั้งแต่จักรพรรดิ ขุนนางระดับสูง จนถึงผู้นำรุ่นใหม่ กว่าจะได้มาซึ่งอำนาจ ความเจริญ ก้าวหน้า และสร้างประเทศให้มั่งคั่งเป็นปึกแผ่

รางวัลซีไรต์ จัดเป็นรางวัลเดียวในโลกที่มอบรางวัลทางวรรณกรรมให้แก่นักเขียนจากหลากหลายประเทศภายในภูมิภาค เป็นรางวัลที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและยกย่องในแวดวงวรรณกรรมทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นรางวัลที่สร้างชื่อเสียงและเกียรติภูมิที่สง่างามให้แก่ประเทศไทยในฐานะประเทศเจ้าภาพผู้ก่อตั้งรางวัลนี้ด้วย ในประเทศไทยน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักรางวัล วรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (South East Asian Writers Awards S.E.A WRITE) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า รางวัลซีไรต์ ถือกำเนิดมาเมื่อกว่า 33 ปีที่แล้ว โดยเริ่มในปี พ.ศ.

ศาสตร์สู่ความมั่งคั่ง เส้นทางก่อร่างสร้างตัวของเศรษฐีเมืองไทย ภูมิหลังแห่งชีวิตแหละมรรควิธีก่อสร้างอาณาจักรของเจ้าสัวตระกูลมหาเศรษฐี ผู้ร่วมสรรค์สร้างตำนานชีวิต จาก “เสื่อผืนหมอนใบ” สู่ “เจ้าสัว” พันล้านหมื่นล้าน เป็นตำนานที่ต้องบันทึกไว้เป็นทั้งบทเรียนและกรณีศึกษาที่นักธุรกิจ นักบริหาร คนรุ่นใหม่พึงสัมผัสและเรียนรู้เพื่อความสำเร็จในชีวิตการงาน ซึ่งมีข้อสรุปถึงหนทางแห่งความสำเร็จและมั่งคั่งตรงกันว่า “ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ทนที่สุดเท่านั้น ที่จะได้เป็นผู้ชนะ และเดินผ่านถนนหนามไปสู่ความร่ำรวยได้ในที่สุด”

ขอมเป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งในภูมิภาคอุษาคเนย์ มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน มรดกที่สำคัญสุดของอาณาจักรขอมคือ นครวัด และนครธม ซึ่งเคยเป็นนครหลวงเมื่อครั้งอาณาจักรแห่งนี้มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุด และยังมีลัทธิความเชื่อต่างๆ อย่างหลากหลาย โดยศาสนาหลักของอาณาจักรนี้ได้แก่ ศาสนาฮินดู พุทธศาสนามหายาน และพุทธศาสนาเถรวาทที่ได้รับมาจากศรีลังกา เนื้อหาที่นำมาเรียบเรียงนี้ี้ เป็นเหตุการณ์หนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ขอม ซึ่งสามารถทำให้เห็นภาพรวมตามลำดับเวลา เมื่อครั้งอาณาจักรแห่งนี้ที่เคยยิ่งใหญ่ ทั้งประวัติศาสตร์ความเป็นมา ในช่วงสมัยต่างๆ รวมถึงอารยธรรม และอิทธิพลขอมที่มีต่อไทย

นอสตราดามุส เป็นนักโหราศาสตร์อันลือชื่อ ที่ผู้คนเกือบทั่วทั้งโลกรู้จักกันเป็นอย่างดี และเขายังได้รับสมญานามว่าเป็น “ราชาโหรโลก” บุคคลที่โลกต่างให้ความสนใจและเชื่อในคำทำนาย รวมถึงคำพูดที่ถูกเรียงร้อยเป็นบทกลอน ที่ท้ายสุดคำพูดเหล่านั้นล้วนแต่เกิดขึ้นจริง ทั้งคำทำนายเหตุการณ์ปฏิวัติฝรั่งเศสก็ดี คำทำนายว่าผู้ใดเป็นแอนตี้ไครสต์หรือผู้ต่อต้านพระคริสต์ ก็ดี คำทำนายเกี่ยวกับการเกิดและการดับของบุคคลต่างๆ ก็ดี แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้โลกสั่นสะท้านเท่ากับคำทำนายของเขา ที่ได้ทำนายการเกิดแผ่นดินไหว และหายนภัยจากการเกิดแผ่นดินไหว เหตุการณ์ที่อุกกาบาตจะพุ่งชนโลกที่มีต่อมนุษยชาติ เอาไว้หลายชิ้น ซึ่งแต่ละชิ้นนั

เรียนรู้เรื่องราวชีวิตมหัศจรรย์และผลงานของอัจฉริยะ จะมีมนุษย์สักกี่คนที่เรื่องราวชีวิตกลายเป็นตำนาน และถูกเล่าขานกันมานับร้อยปี อย่างเช่นเลโอนาร์โด ดา วินชี บุรุษที่ได้รับความสนใจจากผู้คนตลอดเวลา กว่า 5 ศตวรรษ ชื่อของเขาอยู่ในกระแสความสนใจ ของผู้คนในทุกยุคทุกสมัย เรื่องราวของบุรุษที่ได้ชื่อว่า เป็นอัจฉริยะผู้นี้ดึงดูดผู้คนทั่วโลก ผลงานของ เลโอนาร์โด ดา วินชี กลมกลืนอยู่ในยุคสมัยปัจจุบัน อย่างโดดเด่นไม่เคยเสื่อม แม้จะผ่านมาแล้ว กว่า 500 ปี

‘เผด็จการ’ คำนี้ดูจะห่างไกลจากประเทศของเรามาก ด้วยประเทศไทยนั้นไม่เคยต้องเผชิญกับการเมืองในระบอบเผด็จการ แต่ในหลายประเทศต้องเผชิญกับระบอบการปกครองที่เหี้ยมโหด จากผู้นำที่ไร้ซึ่งจริยธรรมและสามัญสำนึก ประชาชนในประเทศเหล่านั้นต้องทุกข์แสนสาหัสเป็นระยะเวลานาน ต้องอยู่อย่างหวาดกลัว ?ไร้อิสรภาพในการดำเนินชีวิต ซึ่งกว่าที่จะได้ปลดตัวเองออกจากโซ่ตรวนแห่งความทรมานและมืดมนนี้ ?พวกเขาต้องแลกด้วยเลือดเนื้อ ทุกหยาดหยด สิ่งที่เหลือไว้เป็นอนุสรณ์คือร่างไร้วิญญาณ และเลือดที่นองไปทั่วแผ่นดิน ด้วยน้ำมือของผู้นำที่กระหายอำนาจ อันเป็นเหตุการณ์ที่อยู่ในความทรงจำของหลายๆ คน อาจกล่าวได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่จะต้องจา