เหนือพื้นพสุธา
ยอดหญ้า ชายหนุ่มผู้มาจากดิน ก้าวขึ้นสู่ความเป็นปัญญาชน แต่แล้วก็ต้องหวนคืนสู่แผ่นดิน ภรรยาของเขาจะเป็นผู้สานฝันของเขาให้เป็นจริงในอนาคต แต่จะเป็นไปได้เพียงไร หากความร่วมมือจากผู้คนแวดล้อมมีเพียงน้อยนิด
ยอดหญ้า ชายหนุ่มผู้มาจากดิน ก้าวขึ้นสู่ความเป็นปัญญาชน แต่แล้วก็ต้องหวนคืนสู่แผ่นดิน ภรรยาของเขาจะเป็นผู้สานฝันของเขาให้เป็นจริงในอนาคต แต่จะเป็นไปได้เพียงไร หากความร่วมมือจากผู้คนแวดล้อมมีเพียงน้อยนิด
เรื่องราวของหญิงสาวผู้หงอยเหงา ต้องอยู่เดียวดาย หลงใหลน้ำเสียงของนักจัดรายการเพลงวิทยุ ดิ้นรนเพื่อคบหากับเขา แต่ความสุขนี้ไม่อาจยั่งยืนได้ มันเปราะบางจนต้องหาทางแก้ไข แต่คนเราต้องแก้ที่ตัวเองไม่ใช่ที่ผู้อื่นจึงจะประสบความสำเร็จ
ชีวิตของชาวสวนส้มฝั่นธนบุรี ที่ต้องล้มละลายเพราะภัยธรรมชาติ เรื่องเล่าผ่านสายตาของลูกสาวคนเล็ก เธอกับพี่ๆ มาจากครอบครัวชาวสวน ใช้ชีวิตอยู่กับความบริสุทธิ์ของแผ่นดินและต้นไม้ เมื่อต้องเผชิญกับโลกภายนอก พวกเขาจะเอาตัวรอดได้อย่างไร
ชีวิตของแตง,น้องเล็ก,อินทุอรและพรดิษฐา ต้องเปลี่ยนไปเพราะการกระทำของ ดิถี ถนนชีวิตของแต่ละคนจะเดินไปเช่นไร พบการกลับมาอีกครั้งกับนวนิยายเรื่องดังที่หายจากท้องตลาดไปนาน "ถนนสายสุดท้าย"
เรื่องราวของหญิงสาวเศรษฐี ผู้น่าจะมีอนาคตอันดีงามและสุขสบาย แต่เมือเธอดำเนินชีวิตผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอก็เป็นเสมือนดวงจันทร์คืนเดือนมืด แต่อีกสาวหนึ่งซึ่งมีภาระอันหนักอึ้งที่ต้องแบก แต่มีความรู้คิดและใช้ชีวิตอย่างเหมาะสม ทำให้เธอประสบความสำเร็จ
ใบหญ้า น้ำคลองขุ่น ๆ บ้านหลังคาจาก กระต๊อบเก็บฟืน ส้วมหลุม... สภาพเหล่านั้นไม่เข้ากับแวววันเลยจนนิดเดียว แวววันเป็นเด็กสาววัยสิบห้า... หล่อนเป็นคนสวย นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญที่น่าสนใจคือแวววันเป็นเด็กฉลาด ฉลาดจนทุกคนออกปาก เขาดูหมิ่นแวววัน หล่อนบอกตัวเอง เขาเห็นแวววันเป็นลูกสาวคนเช่าที่ไม่ต้องให้เกียรติ ไม่ต้องยกย่อง จะมองอย่างไร ทำอย่างไรก็ได้ เขาคงคิดว่าผู้หญิงจน ๆ ทุกคนต้องชอบชายหนุ่มรวย ๆ และเขาจะได้หล่อนชมเล่น "แวววัน" ถูกเลือกให้เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาของนักเรียน-นักศึกษาทั่วไป ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ...ติดตามอ่านเรื่องทั้งหมดได้ในเล่ม
หญิงสาวชายหนุ่มยุคใหม่ที่ใช้ชีวิตท่างกลางพายุเศรษฐกิจและโลกีย์ ทั้งสองปรารถนาที่จะสร้างครอบครัวที่เป็นสุข หากบ้านที่พวกเขาพยายามสร้างเป็นเสมือนเรือนทรายที่ตั้งอยู่ชายน้ำ เพียงกระแสน้ำขึ้นและลมแรงก็อาจพัดบ้านทลายลงได้
เรื่องราวของลูกผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เป็นความมุ่งมั่นไม่หวั่นไหว แม้นรกจะมาขวางกั้น จนในที่สุดเธอก็ไม่ถึงจุดหมายแสนหวานนั้นได้
นวนิยายเล่มแรกในปี 2553 "ถนนไร้ดอกไม้" "คนเราน่ะ ไม่ค่อยมองเห็นความผิดของตัวเองหรอก เห็นแต่คนอื่นผิด อีกอย่างคนที่เข้ากับใครไม่ได้เลยมีเรื่องกับคนรอบตัวไปเสียหมดนี่มันต้องพิจารณาตัวเองแล้ว ไม่ใช่คิดแต่ว่าคนอื่นร้ายกาจไปเสียหมดทุกคน"
พ่อม่ายผู้หัวใจบอบช้ำจากการสูญเสียภรรยาที่ถูกรังสีนิวเคลียร์ พาลูกสาวซึ่งอ่อนแอตั้งแต่เกิด กลับเมืองไทย ลูกสาวที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจที่เขาพยายามช่วยเหลือสุดชีวิต ความรักของผู้เป็นพ่อที่จะกลายเป็นความประทับใจไม่ลืมเลือน