"นานเนิ่นหลายสิบปีเห็นจะได้ สำหรับการกำเนิดของ “วิชชาธรรมกาย” ซึ่งผู้ที่ประกาศการค้นพบก็คือ “หลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ” โดยกล่าวอ้างว่าเป็นวิชชาของพระพุทธเจ้าที่เคยตรัสสอนไว้ แต่เมื่อพระองค์ปรินิพพานก็ได้สูญสลายหายไป จนผ่านไปหลังปรินิพพานราว 500 ปีต่อมาจึงได้ค้นพบขึ้นอีกครั้ง ไม่ว่าวิชาธรรมกายของพระพุทธเจ้าจะเป็นเรื่องจริงหรือโกหก แต่ “วัดพระธรรมกาย” ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม ถึงแม้หลวงพ่อสดจะอ้างว่าตนได้ค้นพบวิชาธรรมกาย แต่หลังจากประพฤติตามหลักความเชื่อดังกล่าว กลับค้นพบว่ามิได้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระพุทธเจ้า จึงได้ยุติลงก่อนจะมรณภาพในอีกหลายปีต่อมา กระนั้นวิชาธรรมกายกลับได้รับการถ่ายทอดจากลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อสด กลายเป็นศาสนสถานที่สั่งสมอำนาจและบารมีด้วยพุทธพานิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย “เสฐียรพงษ์ วรรณปก” ราชบัณฑิตคนสำคัญของไทย ผู้แลเห็นความเท็จที่แฝงอยู่ในคำสอนของวัดธรรมกาย จึงได้ออกมาตอบโต้ชี้แจงว่า หลักคำสอนดังกล่าวได้รับการบิดเบื้อน แต่งแต้มจากดำเป็นขาว รวมอยู่ในหนังสือ “บทเรียนชาวพุทธจากกรณีธรรมกาย” เล่มนี้ โดย “เสฐียรพงษ์” ได้อธิบายอย่างละเอียดถึงข้อเท็จจริงในพระไตรปิฎกว่าเป็นอย่างไร การอัดธรรมกาย การถวายข้าวแก่พระพุทธเจ้า การนั่งสมาธิจนเห็นลูกแก้ว การเดินเท้าบนดอกดาวเรือง ฯลฯ เป็นกิจของสงฆ์หรือเป็นเรื่องหลอกลวงหรือไม่ เพื่อให้คนไทย “ตื่นรู้” ถึงหลักคำสอนว่าสมควรที่จะปฏิบัติตาม หรือจะตอบโต้ต่อต้านเพื่อปกป้องหลักการอันแท้จริงของพุทธศาสนา"
0