"ในช่วงราชวงศ์สุย รอยต่อราชวงศ์ถัง ได้มีครอบครัวพ่อค้าครอบครัวหนึ่งให้กำเนิดบุตรสาวในชื่อ “เม่ยเหนียง” เธอเป็นเด็กสาวสวยน่ารัก แต่ก็แฝงไว้ซึ่งบุคลิกแบบผู้มีอำนาจ จนทำให้เม่ยเหนียงเป็นที่จับตาของคนในวัง เธอได้นำตัวเข้าวังไปตอนอายุ 14 ปี เพื่อเป็น “ไฉ่เหยิน” หรือสนมระดับล่างเพื่อรับใช้พระเจ้าถังไท่จง ถังไท่จงรับรู้ความสามารถและวิสัยทัศน์ของเม่ยเหนียงมาพอสมควร จึงพยายามไม่ให้เธอก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ แต่ก่อนที่ถังไท่จงจะสวรรคต เม่ยเหนียงก็ได้หว่านเสน่ห์รัชทายาท “ถังเกาจง” จนเป็นที่โปรดปราน แต่ด้วยธรรมเนียมจีนที่ระบุว่าเมื่อฮ่องเต้สวรรคต นางในทุกคนต้องไปบวชชี เม่ยเหนียงจึงต้องทำตาม กระนั้นรสพิศวาสระหว่างเม่ยเหนียงกับถังเกาจงก็ยังไม่จางหาย ผลักดันให้เม่ยเหนียงตั้งท้องทั้งที่ยังบวชเป็นชี ประกอบกับฮองเฮาในวังกับพระสนมอีกคนมีเรื่องระหองระแหงกัน ฮองเฮาจึงดึงเม่ยเหนียงกลับเข้ามาในวังด้วยหวังจะกำจัดพระสนมคนนั้นให้พ้นทาง แต่เมื่อเม่ยเหนียงกำจัดสนมคนนั้นตามแผนของฮองเฮาได้สำเร็จ เธอก็กลับหวนมาจัดการฮองเฮาด้วยการใส่ร้ายว่าฮองเฮาฆ่าลูกสาวของเธอ จึงทำให้ถังเกาจงโกรธแค้นยิ่งนัก ภายหลังกำจัดทั้งฮองเฮาและสนมคนสนิทไปแล้ว เม่ยเหนียงก็กำจัดศัตรูทางการเมืองตามลำดับ เหตุการณ์นี้คู่ขนานไปพร้อมกับสุขภาพที่ทรุดโทรมของถังเกาจง ตรงข้ามกับอำนาจของเม่ยเหนียงที่มากขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายเมื่อถังเกาจงสวรรคต แม้จะมีรัชทายาทขึ้นมาสานอำนาจต่อ แต่เม่ยเหนียงก็ถือสิทธิยึดอำนาจ และสถานปนาเป็น “บูเช็กเทียน” ได้ในที่สุด กระบวนการไต่เต้าอำนายของบูเช็กเทียนค่อนข้างเป็นไปอย่างเหี้ยมโหด เลือดเย็น แต่เมื่อหลายปีผ่านไป พระนางบูเช็กเทียนกลับให้ความสำคัญกับการปกครองอย่างเป็นธรรมมากขึ้น ซึ่งเธอได้นำขุนนางตงฉินเข้ามาบริหารเป็นจำนวนมาก แม้แต่ “ตี๋เหรินเจี๋ย” ก็เป็นผู้พิพากษาตงฉินในยุคสมัยของนางเช่นกัน หากต่อมาวาระสุดท้ายของบูเช็กเทียนเดินทางมาถึง หลังจากขุนนางกลุ่มหนึ่งทูลขอให้พระนางมอบอำนาจให้รัชทายาทตามเดิม ซึ่งพระนางเองก็ยอมโอนอ่อนผ่อนตาม ก่อนจะสวรรคตลงเมื่อพระชนมายุ 80 ชันษา"
0