หน้ากากไฟ ภาค 3 ประจัญบาน

สุริยาเริ่มสืบหาตัวดลยา โดยในระหว่างนี้เอง เขาได้ทำลายคนชั่วเพิ่มอีก ยิ่งฆ่า สุริยายิ่งค้นพบสิ่งเร้นลับภายในตัว
ฉายา “หน้ากากไฟ” ถูกขนานนามโดยกลุ่มตำรวจชุดหนึ่ง ซึ่งเบื้องหลังของตำรวจชุดนี้มาจากอิทธิพลหนุนหลังของนักการเมืองใหญ่ ที่กลับมายิ่งใหญ่บนเส้นทางการเมืองอีกครั้ง
และเป็นนักการเมืองที่ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายเจ้าพ่อดุ่ย ดำเริงนั่นเอง “หน้ากากไฟ” กลายเป็นศัตรูของเหล่าคนชั่ว แต่ขณะเดียวกันก็เป็นที่ต้องการของทางการเหมือนกัน
โลกนี้ ยากจะมีผู้ใดต่อกรกับหน้ากากไฟ แต่เบื้องหลังของหน้ากากไฟ ยิ่งเขาจัดการกับคนชั่วร้ายมากเท่าใด ก็ยิ่งค้นพบกับความจริงอันน่าเจ็บปวด
ดลยา น้องสาวต่างสายเลือด ที่เขาเพียรสืบหา บัดนี้กลายเป็นนักฆ่ากระหายเลือด โดยมีจุดหมายคือ หน้ากากไฟ
ร.ต.อ.หญิง รวีวาด ชาติเดโช มือปราบสาวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับมอบภารกิจสำคัญ คือ การจับกุมหน้ากากไฟ แต่ยิ่งเข้าใกล้หน้ากากไฟ
เธอกลับค้นพบผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่มีความสุภาพอ่อนโยน ผู้รักความเป็นธรรม โดยผู้กองรวีวาด จะต้องทำงานประสานกับร.ต.อ.อาวุธ เพชรไพลิน นายตำรวจมือปราบจอมหยิ่งผยอง
ผู้ก้าวขึ้นมามีอำนาจในกองปราบ ด้วยการหนุนหลังของนักการเมือง พันธมิตรเก่าของเจ้าพ่อดุ่ย ดำเริงนั่นเอง หน้ากากไฟ จำเป็นต้องห้ำหั่นทั้งกับคนชั่วจริงๆ คนชั่วในเครื่องแบบ
รวมทั้งคนชั่วที่เป็นน้องสาวต่างสายเลือด หน้ากากไฟ แทบไม่มีพื้นที่ว่างใดๆในชีวิตสำหรับคำว่า ความสุข แม้กระทั่ง “จันทร์ฉาย” ผู้หญิงคนเดียวที่ให้ความช่วยเหลือเขาอย่างบริสุทธิ์ใจ
ทั้งๆที่เธอรู้ว่าเขาเป็นใคร ก็ไม่เคยคิดหักหลัง หน้ากากไฟยังไม่สามารถปกป้องเธอเอาไว้ได้ จันทร์ฉายถูกตำรวจชั่วอย่างผู้กองอาวุธใช้เป็นเหยื่อล่อ
ผู้กองรวีวาดเองก็เริ่มจะเข้าใจหน้ากากไฟ ภารกิจของเธอจริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องยากเลย ในเมื่อเธอรู้จักตัวตนจริงๆของหน้ากากไฟว่าเป็นใคร
​แต่...ระหว่างหน้าที่กับความรู้สึกดีๆที่เธอมีให้กับเขา เป็นอะไรที่ตัดสินใจลำบาก