R U ready จะรักกันไหมถ้าหัวใจบอกว่าใช่เธอ
R U ready จะรักกันไหมถ้าหัวใจบอกว่าใช่เธอ
R U ready จะรักกันไหมถ้าหัวใจบอกว่าใช่เธอ
อักขระชวนชิม
อาจจะรู้สึกแปลกๆ ที่จะต้องลดตัวตนลงไปบ้างทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อนเลย
อาจจะรู้สึกยาก เพราะถึงแม้จะรู้สึกว่าตัวเองผิด แต่ก็ไม่เคยกล่าวคำขอโทษเลย
อาจจะรู้สึกแพ้ อาจจะรู้สึกว่าเดินถอยหลัง
แต่เมื่อผิดแล้วไม่ยอมรับผิด แต่บางวันที่แพ้ แต่ยังอยากหลอกตัวเองอยู่ ความรู้สึกยิ่งแย่กว่า ความรู้สึกยิ่งแพ้มากกว่า
อย่ากลัวที่จะขอโทษใครสักคน แต่ต้องขอโทษต่อเมื่อเรารู้สึกว่าผิดจริงๆ มิใช่ใช้คำขอโทษบ่อยโดยที่ไม่รู้สึกจริงจังกับคำ ขอโทษนั้นเลย ทุกคนล้วนทำผิดกันได้ทั้งนั้น คนที่ผิดแล้วยอมรับความผิดของตัวเองได้และพร้อมจะแก้ไข มักมีทางออกที่สวยงามเสมอ
อักขระชวนชิม ปัญหาๆ เดียวที่สร้างความกลัวให้กับเรา แต่ใครจะไปรู้ว่าในความกลัวนั้นเราสามารถหาทางแก้ปัญหามันได้เป็นร้อยทาง เพราะสุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่ที่ตัวเราเอง ความกลัวที่เราสร้างขึ้นมาเอง เราก็ต้องทำลายมันเอง คงไม่มีใครรู้ใจเราดีเท่าตัวเราเอง ในความกลัวทั้งหมดมีเราเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่า เรากำลังกลัวอะไร ? เรากำลังทำอะไร ? เรากำลังหนีอะไร ? เรากำลังสู้อยู่กับอะไร ? ความกลัวกำลังสอนเราว่าความอ่อนแอของมนุษย์นั้นเป็นอย่างไร ความกลัวกำลังบอกเราว่าการใช้ชีวิตนั้นไม่ง่ายเลย เพียงเรารู้จักตัวเอง เราจะพบว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกก็คือ เราเอง-ใจเราเอง (จากบทความเรื่อง กลัว)
อักขระชวนชิม ฉันได้แต่หวังอยู่ว่าสิ่งดีๆ ที่เรามีร่วมกัน และมีให้กันมาตลอดนั้นมันคงจะทำให้เธอนึกถึงฉันขึ้นมาบ้างไม่วันใดก็วันหนึ่ง เสียดายอยู่ก็แต่สิ่งที่ฉันได้รับจากเธอมันมากมาย มากซะจนฉันรู้สึกว่าน่าจะมีอะไรดีๆ อีกที่ฉันจะเป็นฝ่ายทำให้เธอได้บ้าง แต่ทุกอย่างที่ผ่านมาฉันคิดว่าฉันทำให้เธอได้ดีที่สุดเท่าที่ผู้หญิงงี่เง่าอย่างฉันจะมีปัญญาทำให้เธอได้แล้ว และเหตุผลเดียวของฉัน ที่จะบอกเธอว่า...รักเธอเพราะอะไร ฉันจะตอบว่าก็เพราะเธอเป็นเธอนั่นแหละ คนแบบฉันคงไม่เหมาะที่จะเป็นกรงขัง หรือเป็นต้นไม้ให้เธอหยุดพัก ฉันขอเป็นสายลมที่คอยพยุงปีกของนก ในยามบินดีกว่า เวลาที่เธอบิน ฉันชอบมันที่สุดเลย...เพราะมัน
เก๊กชง : การเสแสร้งแสดงออกทางร่างกายให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นชายแท้ ตัวอย่าง. แกเห็นนังปิยะชาติมั้ย เดี๋ยวนี้หล่อนหัดเตะฟุตบอลแล้วนะยะ ฮู้ย! พยายามเก๊กชง สุดฤทธิ์เลยล่ะ เพราะหล่อนหวังจะไปงาบลุกฟุตบอล เอ๊ย! นักฟุตบอลน่ะย่ะ ชบา : คำที่ใช้เรียกชะนีที่อยู่ในบาร์ ตัวอย่าง. ต๊าย! แกดูชบาดอกนั้นซิ ทั้งเหี่ยว ทั้งแห้ง ทั้งกรอบ ทั้งผุ ยังจะกล้าไปนั่งทำท่า ออดอ่อยให้ชงมาเด็ดไปดมอีก ไม่รู้จักเจียมสังขารตัวเองซะมั่งเรย... เรี่ยม : การกระทำที่กระแดะ เปิ่น และสะเหร่อแบบออกนอกหน้า ตัวอย่าง. ต๊าย!
วาดร้องไห้ให้กับเตฮวา และหันไปถามเสกว่า ถ้าเป็นเธอ เธอจะทำแบบเตฮวาไหม?
เสกส่ายหน้า แต่คำพูดหลังจากนั้นที่วาดได้ยิน...ทำให้วาดเข้าใจแล้วว่าเสกทนรักเธอมานานถึง 4 ปี ทั้งที่วาดไม่เคย ให้ความหวังได้อย่างไร เธอมีพระเอกแบบ ซองจู หรือยังล่ะ ถ้ายังไม่มีแล้วฉันจะตายได้ยังไง เธอตาบอดแบบนั้น ฉันก็ต้องอยู่ดูแลเธอสิ ...แต่ถ้าเธอมีซองจูเมื่อไหร่ บอกฉันนะ... ฉันจะบริจาคตาให้ ฉันจะไปให้เธอเอง
เพราะเสกรักฟ้าด้วยหัวใจ และเพราะความรักไม่มีเหตุผล
(จากบทความเรื่อง เธอไม่รักไม่เป็นไร...แต่ฉันจะหายใจเพื่อเธอ)
การอกหักไม่ได้หมายความว่าเรากำลังกลายเป็นคนโง่ เราจะกลายเป็นคนโง่ ก็ต่อเมื่อ เดินย้อนกลับไปหา รักโง่ ๆ นั้นอีกครั้ง (จากบทความ คนอกหักไม่ใช่คนโง่) ความรักไม่ได้ทำให้เราร้องไห้...เราต่างหากที่ร้องไห้ให้กับความรัก ความรักไม่ได้ทำให้เราเสียใจ...เราต่างหากที่เสียใจให้กับความรัก ความรักไม่ได้ทำให้เราพ่ายแพ้...เราต่างหากที่พ่ายแพ้ให้กับความรัก (จากบทความ ฟูมฟายให้ใครฟัง)
รักแท้แพ้ใกล้ชิด ใครกันนะที่คิดประโยคนี้ขึ้นมา...โกหกทั้งเพ!
ก็เพราะถ้ามันเป็นความจริง เขา เจตนิพัทธ์ จะรู้สึกปวดใจเช่นนี้หรือ? ทั้งที่รู้จักและเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กกับ ปิ่นมนัส ทั้งที่เขาคอยเป็นห่วงเป็นใยเธอยิ่งกว่าใส่ใจดูแลตัวเองเสียอีก แต่เธอกลับไม่เคยรู้เลยว่าเขาไม่ได้รักเธอในฐานะเพื่อน! เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ไปให้ความสนิทสนมกับ นวินทร์ หนุ่มหล่อเจ้าของร้านกาแฟที่เพิ่งรู้จักกัน แถมยังออกปากว่า รัก ให้เขาฟังอย่างหน้าตาเฉยได้หรอก
กระทั่งวันที่เขาไปบังเอิญเจอผู้หญิงคนหนึ่งที่วิ่งมาตัดหน้ารถของเขา ท่าทางเธอเหมือนกำลังหนีอะไรมาสักอย่าง
ชวนชิม เหมือนทราย หญิงสาวผู้รักในความสงบและความยุติธรรมเป็นที่หนึ่ง หลังจากเรียนจบมาได้เพียงสองปี...ก็ต้องมาพบกับปัญหาในที่ทำงาน สิ่งเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายกับการใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวง ก็คือการเข้าไประบายความไม่สบายใจในเว็บบอร์ดของ เรียว นักร้องหนุ่มชื่อดังคนโปรดของเธอ...ที่เคยเป็นหนึ่งในสมาชิกวง GLANCE วันหนึ่ง...เธอได้รับข้อความที่ให้กำลังใจดีดีจาก โน้ตตัวที่เจ็ด เขาขอแลกอีเมล์กับเธอ...และพูดคุยกันผ่าน msn. ในเวลาต่อมา แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น...เมื่อ โน้ตตัวที่เจ็ด ก็คือ เรียว แถมเรียวยังบอกกับเธออีกว่า...
ฉันชื่อ ปุ๊ก เป็นแฟนคลับชนิดเหนียวแน่นติดหนึบของรายการวิทยุคลื่น Cheeze โดยเฉพาะช่วงที่ ดีเจ.ปอร์เช่ จัดรายการตอนสามทุ่มนะ ฉันไม่เคยพลาดเลยล่ะ พี่ปอร์เช่น่ะ...เสียงก็หล่อ เปิดเพลงก็เพราะ แถมยังใจดี๊...ใจดี...ที่สุดด้วยนะ รู้ได้ไงน่ะเหรอ ? ก็ฉันโทร.ไปคุยหลังไมค์กับพี่ปอร์เช่แทบทุกคืนเลยนี่นา ^0^ แต่ถึงจะสนิทกัน(ในระดับนึง) แต่ฉันก็เหมือนกับแฟนคลับคนอื่นๆ ของคลื่นนี้ นั่นคือไม่รู้ว่าหน้าตาของ ดีเจ.แต่ละคนหล่อเหลาเอาการสักแค่ไหน (เพราะคอนเซ็ปท์ของคลื่นนี้คือ...คลื่นปริศนาที่มาพร้อมกับรอยยิ้ม) ช่างเถอะ...เพราะถึงยังไงฉันก็รักพี่ปอร์เช่ที่สุดอยู่แล้ว !