จิตวิทยาทั่วไป

เพราะชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไป เพียงแค่เปลี่ยนวิธีคิดก็เปลี่ ยนชีวิตคุณให้ดีขึ้นได้ เวลามันผ่านไปเร็ว เราไม่ควรจะปล่อยให้มันเสียเปล่า
คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตจะเก็บเกี่ยวความสุขทั้งหมดไว้ พวกเขาจะให้ความสนใจกับสิ่งสามารถควบคุมได้ หรือเรียกอีกอย่างว่า การใช้เวลาอย่างเป็นประโยชน์

หนังสือเล่มนี้ จะเป็นเพื่อนคู่คิดนำทาง ให้คุณเปลี่ยนตนเองจากความเบื่อหน่าย เป็นการมองโลกด้วยความสดใส สวยงามได้ด้วยตัวคุณเอง ชีวิตที่จำเจทำอะไรซ้ำซากเหมือนเดิมทุกวัน
เชื่อว่าคุณคงจะต้องเบื่อแน่ๆเพราะทุกคนก็อยากทำอะไรใหม่ๆในชีวิตไม่ใช่ทำอะไรเดิมๆไปตลอด การที่เราจะเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างเราต้องหาจุดให้ได้ก่อนว่าจะเริ่มเปลี่ยนตรงไหนก่อน
อย่างเช่นเปลี่ยนนิสัยการนอนคือจากเป็นคนนอนดึกก็เปลี่ยนมาเป็นนอนเร็วขึ้นเพื่อที่ตอนเช้าจะได้ตื่นมาแล้วไม่งัวเงียทำให้สดใสได้ทั้งวันนี่ก็เป็นการบริหารเวลาอีกอย่างหนึ่ง

ไม่น่าเชื่อว่าเผลอหน่อยเดียว ก้าวมาสู่เลข 3 นำหน้า เขาบอกว่าถ้าผู้หญิงนำหน้าด้วยเลข 3 แล้วยังนิ่งๆ ยังไม่มีครอบครัว น่ากลัวนัก
แต่สำหรับผู้ชาย ถ้าขึ้นเลข 4 เขาบอกว่าเพิ่งเริ่มต้น 30 เพิ่งคิดได้ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ไม่ช้า เพราะไม่มีคำว่าสายเมื่อใจคิดได้ อะไรไม่ดี เริ่มต้นใหม่
​อะไรไม่ใช่เปลี่ยนใหม่ได้ เลิกใช้ข้ออ้างว่า ยังไม่พร้อม เริ่มต้นใหม่ได้ทัน เชื่อเถอะ

เพียงสังเกตว่า เขาชอบสวมเเหวนนิ้วใด สวมกางเกงยีนส์ฟิตหรือหลวม? สวมเเว่นเเบบไหน? วิธีที่ถือถ้วยกาเเฟหรือกินข้าว กินก๋วยเตี๋ยว เหลือลูกชิ้นไว้กินทีหลังหรือไม่?   
ด้วยกลเม็ดเคล็ดลับที่ช่วยให้รู้นิสัยใจคอทันใจ ความเคยชินของแต่ละบุคคลในกิริยาอาการและท่าทีต่างๆ ที่แสดงออกมานั้น ล้วนแต่เป็นไปโดยการผลักดันของพื้นฐานอารมณ์
และภาวะความคิดจากในเบื้องลึกทั้งสิ้น ซึ่งถ้าเรารู้จักสังเกตท่าที่ในลักษณะอาการต่างๆ ของคนรอบข้าง เราก็จะสามารถล่วงรู้นิสัยใจคอและความคิดของบุคคลอื่นได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้พบเจอ

อยากบอกรักให้ชนะใจเเต่เขินเกินกว่าจะเอ่ยคำว่ารักแค่เอ่ยคำว่า I love you น่ะไม่ยากหรอก (หรือบางคนอาจเถียงว่า ยากสุดชีวิต) แต่การบอกรักด้วยวิธีการอื่นๆ น่ะมันมีความหมายโดนใจนัก
คนที่รักกันแล้วก็จะได้รักกันมากยิ่งขึ้นคนที่เพิ่งปิ๊งกันใจก็จะละลาย...ละลาย...กลายเป็นตกหลุมรักกันเข้าแล้วอุบายบอกรักอย่างแยบยลนั้นมีหลายเล่มเกวียน รับรองว่าถ้านำไปปฏิบัติแล้วไม่ผิดหวัง
​คู่มือเล่มนี้รวบรวมเรียบเรียงมาจากตำราลับของนักรักทั่วโลก ไม่ต้องกลัวเป็นคุณแห้วดอทคอมอีกต่อไป

ทำไมบารัค โอบามา ถึงชนะคู่เเข่งอย่างขาดลอย
บิลเกตส์ ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีตั้งเเต่อายุ 20 กว่าๆ
เพราะเหตุใดสตีฟ จอบส์ ทำไมถึงลุกขึ้นมาเขย่าโลก facebook เว็บไซต์ที่ร้อนเเรงของโลกเกิดขึ้นเพราะเหตุใด
รู้จักเถ้าเเก่น้อย เด็กมหัศจรรย์ทางธุรกิจของเมืองไทย
​เเละอีกหลายคน เขาทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จเเบบเร็วเเละเเรงได้

เชื่อหรือไม่ว่าคนเราสามารถบงการความสุขได้ สามารถกำหนดให้ชีวิตพบกับความสำเร็จได้เท่าที่ต้องการ ตอนแรกผมก็ไม่มั่นใจ จนกระทั่งได้พิสูจน์แล้วพบว่าทำได้จริง! 
ความสุข-ความทุกข์ ความสําเร็จ -ความล้มเหลว ความรวย-ความจน ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่ เกิดขึ้นได้กับชีวิตมนุษย์ทุกคน คำถามที่หลายคนหาคำตอบก็คือ
แล้วต้องทำอย่างไรจึงจะทำให้ความสุขความสำเร็จในชีวิตอยู่กับเราได้นานที่สุด และหากวันใดที่เราต้องล้มลง มันมีวิธีที่จะช่วยพยุงสติ บำรุงความคิดให้มีพลังเพื่อนำพาตนเองไปสู่สิ่งที่ดีที่รออยู่ข้างหน้าได้หรือไม่...

การที่บริษัทหรือองค์กร จะไปรอดหรือไม่นั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับ บุคลากรในบริษัทหรือองค์กรทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้านายหรือลูกน้อง หรือแม้แต่แม่บ้าน พนักงานรักษาความปลอดภัย
ทุกคนล้วนมีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับความเจริญก้าวหน้าขององค์กรด้วยกันทั้งสิ้น ด้วยเหตุที่ความสามารถของทั้งเจ้านายและลูกน้องจะเป็นตัวผลักดันให้บริษัท หรือองค์กรนั้นๆ
ดำเนินต่อไปจนบรรลุจุดหมายปลายทางของความสำเร็จ เกียรติยศ และชื่อเสียงได้ หากทุกคนร่วมมือร่วมใจกันช่วยกัน นำความรู้ความสามารถของตัวเองมาใช้ในการพัฒนาบริษัทหรือองค์กร

คุณผู้อ่านเคยสังเกตเห็นใช่ไหมว่าทำไมคนที่พูดเก่ง นำเสนอเก่ง มักจะประสบความสำเร็จหรือก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากกว่าคนที่ไม่ค่อยพูดหรือพูดน้อย ทั้งที่บางครั้งฝีมือการทำงาน
หรือความสามารถของพวกเขาเหล่านั้นก็แค่พื้นๆ ธรรมดาไม่ได้โดดเด่นเหมือน ตอนนำเสนอบนเวทีหรือนำเสนอต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่คำตอบง่ายมากครับ  เพราะคนที่พูดเก่งจะมีทักษะในการนำเสนอ
และโน้มน้าวระดับมืออาชีพ ความสามารถในการโน้มน้าวจูงใจนี่แหละที่ทำให้ลูกค้าเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน หรือแม้กระทั่งลูกน้อง เกิดความเชื่อมั่น ความเชื่อถือ จนนำมาซึ่งความไว้วางใจและการให้โอกาส

แรงบันดาลใจในการเขียนจากการที่ได้มีโอกาสจากสำนักพิมพ์ซีเอ็ดฯ เป็นผู้แปลและบรรณาธิการหนังสือที่ชื่อว่า “Measure What Matters” ของจอห์น ดัวร์
ผู้ที่เป็นต้นตำรับของแนวคิดเครื่องมือการบริหารผลงานองค์กรที่ชื่อว่า “OKRs (Objective & Key Results)” และได้ตั้งชื่อหนังสือเล่มนี้เป็นภาษาไทยว่า
“ตั้งเป้าชัด วัดได้ด้วย OKRs” ในระหว่างที่แปลและเรียบเรียงหนังสือเล่มนี้เรา (ผมและทีมงานผู้แปลอีก 5 คน) ได้เรียนรู้และนำเอาหลักการของ OKRs มาใช้กับการแปลหนังสือเล่มนี้ไปด้วย